ก่อนจะมาเป็นวันแห่งความรัก(Valentine's Day)

(เครดิตภาพ  http://campus.sanook.com/u_life/knowledge_01474.php)

          วันที่14กุมภาพันธ์ถือได้ว่าเป็นวันแห่งความรักที่ใครๆหลายคนรอคอยกันเลยทีเดียวก็

ว่าได้ หนุ่มสาวๆหลายคน ได้มีคนรักในวันวาเลนไทน์ และบางคนก็อาจจะกำลังหา 

คนรักก่อนวาเลนไทน์ ก็เป็นได้ แล้วใครๆหลายคนเคยสงสัยมั้ย ว่า ทำไม วันวาเลนไทน์ 

หรือ วันแห่งความรัก ต้องเป็นทุก วันที่ 14 กุมภาพันธ์ด้วยละ

เริ่มมาจากในอดีตการ เมื่อนานมาแล้ว 

เดือนกุมภาพันธ์ เป็นเดือนที่อบอวลไปด้วย

และอยากให้เขามีความสุข และเป็นที่รับรู้กันทั่ว

โลก ว่าวันที่ 14 กุมภาพันธ์ เป็นวันแห่ง

การแสดงถึงความรัก ความห่วงใยถึงคนที่เรา

ความรักหรือวันวาเลนไทน์ (Valentine’s 

Day) อันว่าความรักนั้น เป็นสิ่งที่อยู่คู่กับ

มนุษย์มาปรารถนาดี ช้านาน และมนุษย์ทุกคน

ล้วนมีความรักอยู่ภายในใจมากหรือน้อยแตกต่าง

กันไป แล้วความรักคืออะไร ผู้อ่านหลายท่าน

คงมีคำตอบสำหรับตนเองอยู่แล้ว บางคนอาจ

ตอบว่าขาดอะไรไปอย่างหนึ่ง บางคนอาจตอบ 

ว่าความ รัก เป็นนามธรรมที่มองไม่เห็นเเต่สามารถสัมผัส ความรักคือ ความรู้สึกซึ่งมีความรู้สึก

หลายๆ แบบปนกันอยู่ ความรัก คือ สิ่งเติมเต็มให้ชิวิตไม่รู้สึก ด้วยหัวใจ บางคนอาจตอบว่า ความ

รักคือทุกสิ่งทุกอย่างของชีวิต เป็นต้น ส่วนคำว่า “รัก” ใน พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน   

พุทธศักราช 2525 มีความหมายว่า “ชอบอย่างผูกพันพร้อม ด้วยความชื่นชมยินดี” ส่วนในภาษา

อังกฤษนั้น จะขอยกตัวอย่างของคำว่า "LOVE" จากหนังสือ ชื่อ New Model English - 

Thai Dictionary  โดยดูหลักในการนำพยัญชนะมาผสม รวมเป็นคำ และความประสงค์ของผู้

บัญญัติศัพท์ว่า LOVE โดยการเรียงพยัญชนะ  ก็จะพบกับความ หมายใหม่ ดังนี้

(เครดิตภาพhttp://theeiei.com/wp-content/uploads/2012/10/%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%A7%E0%B8%B2%E0%B9%80%E0%B8%A5%E0%B8%99%E0%B9%84%E0%B8%97%E0%B8%99%E0%B9%8C1.gif)

L  ตัวแรก น่าจะหมายถึง  Lake  of  sorrow   ทะเลสาบแห่งความเศร้าโศก

O ตัวที่สอง  น่าจะหมายถึง Ocean  of  tear   ห้วงทะเลแห่งน้ำตา

V ตัวที่สาม  น่าจะหมายถึง  Vagen  of  death   หุบเขาแห่งความตาย

E ตัวที่สี่  น่าจะหมายถึง  End  of  life  จุดจบของชีวิต

(ขอบคุณบทความจาก http://www.dmc.tv/pages/top_of_week/%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%A7%E0%B8%B2%E0%B9%80%E0%B8%A5%E0%B8%99%E0%B9%84%E0%B8%97%E0%B8%99%E0%B9%8C-%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B9%81%E0%B8%AB%E0%B9%88%E0%B8%87%E0%B8%84%E0%B8%A7%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B8%A3%E0%B8%B1%E0%B8%81%E0%B9%83%E0%B8%99%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%9E%E0%B8%B8%E0%B8%97%E0%B8%98%E0%B8%A8%E0%B8%B2%E0%B8%AA%E0%B8%99%E0%B8%B2.html)

   

ซึ่งแน่นอนว่าวันแห่งความรักยังเกี่ยวข้องกับ ศาสนาในอดีตอีกด้วย

วันวาเลนไทน์ (Valentine’s Day) มีมาตั้งแต่สมัยจักรวรรดิโรมัน ซึ่งในวันที่ 14 กุมภาพันธ์ จะเป็นวัน

จูโน่ซึ่ง เป็นราชินีแห่งเหล่าเทพและเทพธิดาของโรมัน ชาวโรมันรู้จักเธอในนามของเทพธิดา แห่งอิสตรี 

และการเฉลิมฉลองของแต่งงาน และในวันถัดมาคือวันที่ 15 กุมภาพันธ์ ก็จะเป็นวันเริ่มต้นงานเลี้ยงของ

เด็กหนุ่มและเด็กสาว ต่อมาใน รัชสมัย จักรพรรดิคลอดิอัส ที่ 2 (Emperor Claudius II) แห่งกรุงโรม ที่มี

กษัตริย์ ใจคอดุร้ายและทรงนิยม การทำสงครามนองเลือด และทรงห้ามการจัดพิธีหมั้นและแต่งงานกัน

ในโรมโดยเด็ดขาด โดยขณะนั้นมีนักบุญรูปหนึ่งชื่อว่า “เซนต์วาเลนไทน์” หรือ “วาเลนตินัส” ซึ่งอาศัยอยู่

ในกรุงโรม ได้ร่วมมือกับ เซนต์มาริอัส จัดพิธีแต่งงานให้กับ ชาวคริสต์หลายคู่ด้วยความปรารถนาดีของ

ท่านนี้เอง จึงทำให้เขาถูกตัดสินประหารชีวิตโดยเจ้าหน้าที่บ้านเมือง ก่อนที่เขาจะถูกประหารชีวิตเซนต์

วาเลนไทน์ ได้ตกหลุมรักหญิงสาวที่เป็นลูกสาวของผู้คุมที่ชื่อว่า “จูเลีย” ซึ่งได้มาเยี่ยมเขาระหว่างที่ถูก

คุมขัง ในคืนก่อนที่วาเลนไทน์จะถูกประหารชีวิตนั้น เขาได้ส่งจดหมายฉบับสุดท้ายถึงจูเลีย อันเป็นที่รัก 

โดยลงท้ายว่า “From Your Valentine”

 ในวันที่ 14 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 270 

(วันวาเลนไทน์) หรือ พ.ศ.813 ราว 1,738 ปี หลังจากนั้นศพของเขาได้ถูก

เก็บไว้ที่ โบสถ์พราซีเดส (Praxedes) ณ กรุงโรม ซึ่ง จูเลีย ได้ปลูกต้นอา

มันต์ หรืออัลมอลต์สีชมพู ไว้ใกล้หลุมศพ ของเซนต์วาเลนไทน์ หรือ วาเลน

ตินัส แด่ผู้เป็นที่รักของเธอ โดยในทุกวันนี้ ต้นอามันต์สีชมพู ได้เป็นตัวแทน

แห่งรักนิรันดรและมิตรภาพ อันสวยงาม และคำนี้ก็เป็นคำที่ใช้มาจนถึง

ปัจจุบัน ถึงแม้ว่าเบื้องหลังความเป็นจริงของวาเลนไทน์จะเป็นตำนานที่

มืดมัว แต่ เรื่องราวยังคงแสดงให้เห็นถึงความรู้สึกสงสาร ความกล้าหาญและที่สำคัญที่สุดเป็น

เครื่องหมายของ ความโรแมนติค จึงไม่น่าประหลาดใจเลยว่า ในช่วงยุคกลางวาเลนไทน์เป็นนักบุญ ที่

มีชื่อเสียงมากที่สุด ในอังกฤษและฝรั่งเศส ต่อมาพระในนิกายโรมันคาทอลิกจึงเลือกให้ วันที่ 14 

กุมภาพันธ์ เป็นวันเฉลิม ฉลองเทศกาลแห่งความรักและดูเหมือนว่ายัง คงเป็นธรรมเนียมที่ชายหนุ่มจะ

เลือก หญิงสาวที่ตนเอง พึงใจใน วันวาเลนไทน์ สืบต่อกันมาจนถึงทุกวันนี้

(ขอบคุณบทความจากhttp://scoop.mthai.com/specialdays/1535.html)

ดอกกุหลาบ วาเลนไทน์

  

วันวาเลนไทน์ ต้องคู่กับ ดอกกุหลาบ ขาดจากกันไม่ได้ การบอกรักด้วยดอกกุหลาบนั้น สามารถบอกถึงนิสัยและความ

หมายของสีดอกกุหลาบได้อีกด้วย
 กุหลาบสีแดง (Red Rose): แทนความหมายว่า “ฉันรักเธอ”

 กุหลาบสีขาว (White Rose) : แทนความหมายว่า “ความรักอันบริสุทธิ์”

 กุหลาบสีชมพู (Pink Rose) : แทนความหมายว่า “ความรักแบบโรแมนติก”

 กุหลาบสีเหลือง (Yellow Rose) : แทนความหมายว่า “ความรักแบบเพื่อน”

(ขอบคุณบทความจากhttp://scoop.mthai.com/specialdays/1535.html)

แต่ในประเทศในญี่ปุ่น จะแตกต่างกับประเทศอื่นๆ ประเทศญี่ปุ่น

ให้ ช็อกโกแลต แทน ดอกไม้

               ในวันวาเลนไทน์ที่ประเทศญี่ปุ่น ฝ่ายหญิงนิยม ที่จะมอบชอคโกแลตให้กับฝ่ายชาย (ส่วน

ผู้ชายจะมอบ ของขวัญ ตอบแทนให้กับผู้หญิงในวันที่ 14 มีนาคม ซึ่งเรียกวันนั้นว่า White Day หรือ วัน

สีขาว) ความนิยม การมอบชอคโกแลตนั้น เกิดขึ้นมา

จากการ ใช้เครื่องมือ ทางการตลาด ของบริษัท

ผลิตชอคโกแลต ผู้หญิงญี่ปุ่น ถูกกระตุ้นให้บอกรัก 

อย่างชัดเจน กับผู้ชาย โดยการมอบ ชอคโกแลต 

ร้านขายของชำ ห้างสรรพสินค้า และร้านสะดวกซื้อ 

จะขายชอคโกแลตที่หลากหลายมาก ไม่ว่าจะเป็น 

ชอคโกแลตที่ ผลิตในประเทศ หรือนำเข้ามาจาก 

ต่างประเทศ มากกว่าครึ่งหนึ่งของยอดขายชอคโก

แลตทั้งปีนั้น จะมาจากช่วงวันวาเลนไทน์ เหตุก็เพราะ ผู้หญิงแดนอาทิตย์อุทัย จะซื้อชอคโกแลต เพื่อ

แจกให้กับ ทั้งเพื่อนร่วมงาน หัวหน้า เพื่อนชาย พี่ชาย คุณพ่อ สามี แฟน และผู้ชายที่เธอรู้จัก และมี

ความยินดีที่จะมอบให้ ชอคโกแลตที่มอบให้กับ ผู้ชายที่เธอไม่ได้หลงรัก ถูกเรียกว่า “giri-choco” (แปล

ว่า ชอคโกแลตที่ให้ตามหน้าที่ หรือ ชอคโกแลตตามมารยาท) เช่น ชอคโกแลตที่มอบให้กับเพื่อนร่วม

งาน หรือกับหัวหน้างาน เป็นต้นและของขวัญชนิดอื่นในวันที่ 14 กุมภา ของทุกปี

      ผู้ชายส่วนใหญ่จะรู้สึกอับอายอย่างมาก ถ้าพวกเขาไม่ได้รับชอคโกแลตในวันนี้ ผู้หญิงจึงพยายาม

มอบ giri-choco กับผู้ชายที่รู้จักทุกคน เพียงเพื่อไม่ให้ผู้ชาย ต้องมีความรู้สึกว่าตัวเขานั้น ไม่ได้รับการ

ใส่ใจ ราคาโดยเฉลี่ยของ giri-choco ตกประมาณอันละ 100 – 300 เยน

     

ผู้หญิง บางกลุ่มมีแนวโน้ม ที่จะให้ของขวัญพิเศษกับคนที่ตนรัก เช่น เนคไทค์ และเสื้อผ้าควบคู่ไปกับ

ชอคโกแลตด้วย ชอคโกแลตประเภทนี้จะเรียกว่า "honmei-choco." (แปลว่า ผู้ชนะที่คาดหวังไว้ 

prospective winner) Honmei-choco จะมีราคาที่แพงกว่า giri-choco และบางครั้งจะเป็นชอคโกแลต

ทำเอง ซึ่งผู้ชายที่ได้รับนั้นถือว่าโชคดีมาก ชอคโกแลตยี่ห้อดังของญี่ปุ่นได้แก่ Glico, Meiji และ 

Morinaga แต่ผู้ชายบางคนมักจะพอใจ กับชอคโกแลตทำเอง มากกว่า เพราะมันจะแสดงออกถึงความ

ตั้งใจของคนทำนั่นเอง    

      

       นอกจากสาวๆจะบอกรักหนุ่มที่แอบปิ๊ง ด้วยการให้ "ช็อกโกแลต" ในวันแห่งความรัก 14 กุมภาพันธ์ 

ยังมีการครีเอตวันพิเศษ สำหรับหนุ่มๆขึ้นอีกวันคือ "ไวท์ เดย์" ตรงกับ 14 มีนาคม

     

ถ้า ในวันที่ 14 มีนาคมนี้ สาวคนไหนได้ของขวัญจากหนุ่มที่หลงรักละก็ เตรียมซ้อมคิสๆๆหน้ากระจกไว้

ได้เลย เพราะแปลว่า พ่อหนุ่มเซย์เยสยอมยกหัวใจให้แล้วนะ!! แต่ถ้าสัญญาณเงียบหาย ก็แห้วรับ

ประทาน!! กระซิบไว้นิดว่า ช็อกโกแลตที่หนุ่มๆเลือกมาให้ บ่งบอกนิสัยใจคอได้ด้วยละ

 - ถ้าให้ "ช็อกโกแลตมินต์" แสดงว่า เป็นคนเปิดเผย ตรงไปตรงมา และมีความคิดสร้างสรรค์,

   

- "ช็อกโกแลตนม" เป็นคนโรแมนติก คุยสนุก แต่ชอบทำตัวเด่น,

    

- "ช็อกโกแลตสอดไส้" เป็นหนุ่มปาร์ตี้ ชอบสังคม ใจดี และถ้าคุณได้

   

- "ดาร์ค ช็อกโกแลต" ละก็ หมายความว่า คุณเจอหนุ่มใจร้อนเข้าแล้ว ประเภทรักง่ายติดไฟเร็ว!!  

(ขอบคุณบทความจาก http://blog.eduzones.com/anisada/78995)

สําหรับคนที่อยากได้อะไรแตกต่างยังมีดอกอื่นๆ อาทิ

- ดอกคาร์เนชั่นสีแดง หมายถึง รักอย่างสุดซึ้ง,

- ดอกลิลลี่สีขาว หมายถึง ความโรแมนติก อ่อนหวานระหว่างคุณและคนรัก,

- ดอกทิวลิปสีแแดง หมายถึง ความรักที่จะร่วมฟันฝ่าไปด้วยกัน
และ

- ดอกไวโอเล็ต ที่แทนความหมายของการให้รักตอบแทน

-การ์ด อันนี้เป็นของจําเป็นควบคู่ไปกับดอกไม้ และช็อกโกแลต เลือกตามแบบที่ชอบ

เขียนความในใจตามแบบที่อยากให้คนที่ได้รับอ่านแล้วเข้าใจในทันที แถมหาซื้อไม่

ยากด้วย

ตุ๊กตา เป็นสิ่งที่ให้กันได้ทุกเทศกาลอยู่แล้ว แต่พิเศษสําหรับวันแห่งความรักคงต้อง

เลือกสรรให้น่ารัก น่าประทับใจแทนความหมายได้ทุกอารมณ์แล้วแต่คุณจะหยิบแบบ

ไหน

เทียนหอม มาแรงในหมู่หนุ่มสาวชาวไทย ที่สื่อได้ทั้งความหมายจากรูปทรงหัวใจ และ

ให้กลิ่นหอมชวนหลงใหลตามแต่ใครจะเลือกได้ถูกใจอีกฝ่ายแค่ไหน

แล้วยิ่งในช่วงที่ใกล้จะวันวาเลนไทน์แล้ว สินค้าทุกอย่างแทบจะเป็น รูปแบบ หัวใจ

เกือบทั้งหมดเลยก็ว่าได้ ทั้งขนม สิ่งของต่างๆ เพื่อต้อนรับวันแห่งความรัก เลยก็ว่าได้
ขอบคุณบทความจาก http://www.suriyothai.ac.th/th/node/235

ก่อนจะจากกัน ผมมีบทกลอน เกี่ยวกับความรัก มาฝากทุกคน

มีบางคำอยากบอกให้เธอรู้

I miss you every time แปลออกไหม

เธอ Genius ออกอย่างนี้คงเข้าใจ

Say Good Night ให้คืนนี้ฝันดีเป็นของเธอ

เรารู้จักวันวาเลนไทน์ กันเป็นอย่างดีแล้ว ใช่มั้ยค่ะ วันแห่งความรักที่จริงแล้ว ไม่ใช่แค่

กับคนที่เป็นคู่ชีวิต เท่านั้นนะค่ะ แต่กับคนในครอบครัว ก็ได้เช่นกันค่ะ ทั้งพ่อ แม่ พี่

น้อง เพียง แต่จะให้ เป็นสิ่งของ อย่าง อื่น หรือของทำมือ แทน ดอกไม้หรือ

ช็อกโกแลต